5R เคล็ดลับเปลี่ยนพฤติกรรมนำพิชิตเป้าหมาย

แบ่งปัน

เอาชนะเป้าหมายที่ท้าท้าย ต้องเริ่มที่การเปลี่ยนพฤติกรรม เป้าหมายที่ปักหมุดได้ชัดเจน ระบุผลลัพธ์ที่มีคุณค่าดีต่อใจ เป็นเป้าหมายที่สร้างพลัง แต่ถ้ายังวนอยู่กับพฤติกรรมเดิม ๆ ผู้นั้นก็แค่กอดความฝันแล้วย่ำอยู่กับที่

วาระขึ้นปีใหม่เช่นนี้ หลายท่านมีเป้าหมายที่ตั้งใจให้สัมฤทธิ์ผล เป้าหมายบางอย่างก็บรรลุผลได้ไม่ยาก ในขณะที่บางเป้าหมายจะไปให้ถึงเส้นชัยได้จำเป็นต้องเริ่มต้นที่การปรับทัศนคติและเปลี่ยนพฤติกรรมซะก่อน

ทำไมต้องเปลี่ยนพฤติกรรม ?

คำตอบแรกคือ ไม่จำเป็น หรือห้ามเปลี่ยนแปลงเด็ดขาด ถ้าพฤติกรรมนั้นส่งเสริมสนับสนุนให้เป้าหมายสำเร็จ ขอขีดเส้นใต้ แต่เราจำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมที่เหนี่ยวรั้ง ฉุดรั้งเราให้ห่างจากเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเป้าหมายท้าทายย่อมไม่ใช่สิ่งที่ทำได้จากความคุ้นชิน ทัศนคติและพฤติกรรมแบบเดิม เพราะถ้าง่ายแบบนั้นก็น่าจะทำสำเร็จไปแล้ว เป้าหมายท้าทายเป็นความปรารถนาที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จในระดับที่สูงยิ่งขึ้นหรือจะเรียกว่าคิดการใหญ่ก็ได้ ความสำเร็จส่งผลในเกิดมูลค่าเพิ่มอย่างก้าวกระโดด เช่น ความก้าวหน้าในงาน ความสำเร็จทางธุรกิจ ความรู้ รายได้ ความภาคภูมิใจ ความสัมพันธ์ ฯลฯ เป็นต้น หรือจะพูดว่าผลสำเร็จจากเป้าหมายที่ท้าทายสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต

5R เคล็ดลับฝึกสมองเพื่อเปลี่ยนพฤติกรรม

พฤติกรรม หมายถึง การแสดงออก คำพูด ท่าทีซึ่งเป็นผลจากอารมณ์ ทัศนคติ พฤติกรรมที่ทำบ่อยๆ ซ้ำๆ จนเป็นความเคยชินแบบอัตโนมัติ (pattern) ถ้าไม่ได้ทำเช่นนั้นก็จะอึดอัด หงุดหงิด บางพฤติกรรมส่งเสริมความสำเร็จของชีวิต (resourceful habit) แต่บางพฤติกรรมฉุดรั้งความสำเร็จ (unresourceful habit) 

John Assaraf https://johnassaraf.com/ ผู้เชื่อและเผยแพร่ด้านศักยภาพสมองสู่ความสำเร็จ เสนอเคล็ดลับฝึกสมองด้วยขั้นตอน 5R เพื่อรับมือกับหลุมพรางความคิด ความรู้สึก การกระทำเชิงลบของเรา และเป็นขั้นตอนปลูกพฤติกรรมที่ส่งเสริมความสำเร็จ ขั้นตอน 5R ประกอบด้วย

  1. Recognize คือการรับรู้และทำความรู้จักกับอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด การกระทำของตนเองอย่างมีสติ ทบทวนกับตนเองว่า อาการเหล่านี้พาเราไปที่จุดใด จุดนั้นเข้าใกล้เป้าหมายที่เราต้องการ หรือเราถูกอารมณ์และการกระทำดึงให้ออกห่างไกลจากเป้าหมายที่ปรารถนา
  2. Response คือการตอบสนอง เมื่อรับรู้อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด การกระทำของตนเอง และตระหนักรู้ว่า กำลังถูกชักจูงเหนี่ยวรั้งให้หยุดอยู่กับที่หรือถอยหลังจนห่างไกลจากเป้าหมาย ขั้นตอน response คือการเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น และถามตนเองว่า “เราเปลี่ยนแปลงสภาวะและการกระทำของเราได้หรือไม่ ?”  คำตอบต้องเป็น “ได้สิ ฉันเปลี่ยนแปลงได้ และฉันต้องเปลี่ยนแปลง” ทุกครั้ง เราต้องฝึกสมองด้วยคำตอบนี้เสมอ
  3. Reframe คือการเปลี่ยนมุมมอง ฝึกสมองให้ใส่ความหมายที่มีคุณค่าและนำเราก้าวไปข้างหน้า จดจำเสมอว่า ทุกสถานการณ์ไม่มีความหมายในตัวมันเอง ผู้ที่ให้ความหมายแต่ละสถานการณ์คือตัวเรา ดังนั้นเราสามารถเลือกให้ความหมายที่รักษาเราไว้บนเส้นทางก้าวหน้า เช่นเมื่อเผชิญความอึดอัด เครียด เบื่อ ลำบาก ฝึกสมองให้สื่อสารความจริงว่านี่คือสิ่งที่เราเลือก เรากำลังเปลี่ยนแปลงจากวิถีเดิมไปสู่การเติบโตครั้งสำคัญ
  4. Release คือการปลดปล่อยอารมณ์ขุ่นมัว ความหงุดหงิดที่บั่นทอนจิตใจ แม้ว่าเราจะมองด้านบวกแล้ว แต่อารมณ์ขุ่นมัวก็ยังไม่จางหายในทันที John Assaraf เรียกอารมณ์แบบนี้ว่า อารมณ์ไม่ปลื้ม (unpleasant emotion) วิธีรับมือคือ 1. หยุดตั้งสติ 2. สูดหายใจลึก ๆ 3. สังเกตรับรู้ความคิด อารมณ์ของตนเองแบบนิ่งๆ  4. นับ 90 วินาที หากเรานิ่งได้ใน 90 วินาที อารมณ์ขุ่นมัวจะเจือจาง ลดลง เย็นลง มีข้อสังเกตว่า การทะเลาะวิวาท วู่วาม โวยวาย มักจะเกิดขึ้นในช่วง 90 วินาทีแรก ที่อารมณ์กำลังพลุ่งพล่านจนปะทุเป็นสีหน้า คำพูด พฤติกรรมรุนแรง
  5. Retrain คือการฝึกสมอง 5R อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง 60 วัน เพื่อเอาชนะ pattern ของอารมณ์พฤติกรรมเดิม และปลูกอารมณ์ พฤติกรรมชุดใหม่แทนที่ไห้ถาวร 

         หวังว่าเคล็ดลับ 5R นี้จะมีประโยชน์สำหรับทุกคนที่ต้องการฝึกสมองให้มีศักยภาพในการพิชิตความสำเร็จของเป้าหมายให้ได้ดียิ่งขึ้นนะคะ

เกี่ยวกับผู้เขียน

ดร.ผาณิต ถิรวงศ์ชัยพันธุ์

ดร.ผาณิต ให้ความสนใจทักษะการโค้ชอย่างจริงจัง และมีความเชี่ยวชาญจนก้าวสู่การเป็นโค้ชมืออาชีพมาตรฐานสากลที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์การโค้ชนานาชาติ (International Coaching Federation (ICF)) ระดับ Professional Certified Coach (PCC)

คุณอาจจะชอบบทความเหล่านี้