Influencer Marketing

Influencer Marketing การตลาดยุคผู้มีอิทธิพล

พ.ย. 25, 2021 พันธุ์ทิตต์ สิรภพธาดา

หนึ่งในเทคนิคสำคัญของการตลาดในยุคดิจิตอล คือการสร้างแบรนด์ ผ่านสื่อโซเชียล เพื่อให้ “ผลิตภัณฑ์” และ “เจ้าของธุรกิจ” เป็นที่รู้จักในสังคมออนไลน์

6,175

วิทยากรสตอรี่

บอกเล่าเรื่องราวชีวิตและการทำงานของวิทยากร ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองต่าง ๆ ให้กับวิทยากร เพื่อนร่วมอาชีพ ท่านอื่น ๆ ครับ

วิทยากรสตอรี่

8 hours ago

แรมที่ ๑ เดือน ๔ ที่ถ้ำตอง(วันพุธที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๗)………………………………………เช้าวันนั้นผมบินจากดอนเมือง ไปถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ ๑๐ โมงครึ่งรอรับกระเป๋าที่สายพานเสร็จก็เดินหามื้อกลางวันในสนามบินจัดข้าวซอยไก่ไป ๑ ชามเสร็จแล้วก็เรียก grab taxiมุ่งหน้าไปวัดศรีสุพรรณที่ ถ.วัวลายถึงจุดหมายประมาณเที่ยงเศษ ๆเลยเดินไปที่ร้านกาแฟภายในวัดสั่งเครื่องดื่มมาจิบ ไปพลาง ๆ ก่อนรอเวลาที่จะพบกับท่านพระครูพิทักษ์สุทธิคุณตอนบ่าย ๒ โมงตามเวลาที่นัดท่านไว้ช่วงนั้นก็เลยหยิบหนังสือในร้านกาแฟมาอ่าน ไม่รู้อะไรดลใจให้อ่านเล่มนี้ …“ประวัติครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทย“ทำให้ผมได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ของครูบาศรีวิชัย การถูกกระทำกลั่นแกล้งต่าง ๆอยู่หลายครั้งหลายหนเป็นเรื่องราวที่อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจดีครับจากนั้นก็ฝากกระเป๋าเดินทางและเป้ไว้ที่ร้านกาแฟ แล้วเดินไปกราบพระพุทธปาฏิหาริย์ (พระเจ้าเจ็ดตื้อ) ที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถหรือโบสถ์เงิน ของวัดศรีสุพรรณกราบเสร็จ ก็นั่งสมาธิ ตามดูลมหายใจตัวเองอยู่ที่นั่นประมาณ ๑๕ นาทีพอถึงเวลาบ่าย ๒ โมงตรงผมก็ เดินไปที่กุฎิของเจ้าอาวาสท่านพระครูพิทักษ์สุทธิคุณกำลังนั่งทำงานอยู่ บอกให้ผมรอสักครู่และอัพเดตว่าตอนนี้รถตู้ที่จะพาไปวัดถ้ำตองพร้อมแล้วคณะที่จะไปด้วยกันมีทั้งหมด ๗ ชีวิตมีพระสงฆ์ ๒ รูป คือหลวงพ่อ กับพระลูกวัดผู้อำนวยการโรงเรียนวัดศรีสุพรรณ เจ้าหน้าที่ของวัดศรีสุพรรณอีก ๒ คนคุณเจน (คนขับรถ) และผมประมาณบ่าย 2 โมงครึ่ง รถตู้ก็เคลื่อนตัวพาคณะเราเดินทางออกจากวัดมุ่งหน้าไปสถานปฏิบัติธรรมวัดถ้ำตองที่ ต. บ้านแปะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ผมนั่งติดกับท่านพระครูระหว่างทางก็พูดคุยเล่าให้ท่านฟังว่าผมกับครอบครัว เราสามคนพ่อแม่ลูกเพิ่งกลับมาจากการไปเที่ยวไต้หวัน เมื่อตอนต้นเดือนเมษาฯและเจอเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่นั่นด้วยแรงสั่นสะเทือน 7.4 ริกเตอร์ถือว่าเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ของไต้หวันญาติผู้ใหญ่ของผมท่านหนึ่งเชื่อว่าที่พวกเรารอดชีวิตมาได้เป็นเพราะเราสามคนได้มาทำพิธีสืบชะตา แบบชาวล้านนา ที่วัดศรีสุพรรณ ในช่วงวันคล้ายวันเกิดของผมเมื่อปลายเดือนมีนาฯ ที่ผ่านมาก่อนเดินทางไปไต้หวัน 5 วัน(นี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ)ผมแค่อัพเดตให้หลวงพ่อท่านฟังระหว่างที่นั่งไปบนรถตู้ท่านก็พยักหน้ารับทราบแล้วก็บอกว่าโชคดีแล้วที่ทุกคนปลอดภัยกลับมาจากนั้นท่านก็พูดถึงวันสำคัญต่าง ๆในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทยเท่าที่ผมจำได้ ก็เช่น ๑๓ เม.ย. วันสังขานต์ล่อง เป็นวันเปลี่ยนผ่านก้าวล่วงไปสู่ปีใหม่จึงควรกำจัดสิ่งไม่ดีให้ล่องไปเช่น ทำความสะอาดบ้านซักผ้า ซักครัว เป็นการทำความะอาดใหญ่ ปีละครั้ง๑๔-๑๕ ช่วงวันเนาว์ หรือ วันเน่าห้ามด่าใคร รักษาวาจาใจ ให้ปกติคนสมัยก่อนจะเตรียมขนทรายเข้าวัด๑๖ เม.ย.วันขึ้นปีใหม่หรือวันพญาวัน ผู้คนก็จะดำหัว ทำความคารวะกัน๑๗ เม.ย.วันปากปีถือเป็นวันสะเดาะเคราะห์ผู้คนมีความเชื่อว่าถ้ากินแกงขนุน ในวันนี้ จะเป็นให้การส่งเสริมสนับสนุนชีวิตให้ดีมีมงคล และบางคนก็ทำพิธีไหว้เสื้อวัด (ศาลพระภูมิ)ขณะที่บทสนทนากำลังออกรสออกชาติ คณะของเราก็เดินทางมาถึง สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตองเวลาประมาณ 16.18 น. ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมงเราทยอยลงมาจากรถตู้ตอนนั้นฟ้ามืดครึ้ม เหมือนฝนจะตกคณะเรานำโดยหลวงพ่อพระครูพิทักษ์สุทธิคุณเจ้าอาวาสวัดศรีสุพรรณได้เดินเข้าไปในศาลารอกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อสุชิน วิมโลหรือ ท่านพระครูวิรัชภาวนานุสิฐ เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมถ้ำตองสักครู่เดียวท่านก็เดินออกมาปีนี้หลวงพ่อสุชิน อายุ 85 ปีแล้ว (เพิ่งผ่านวันคล้ายวันเกิดท่านมาเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว)ท่านพูดคุยสนทนาเป็นกันเองมีอารมณ์ขันเล็ก ๆ สังเกตจากคำพูดและคำถามที่ท่านถามพวกเราก็รู้ว่านี่คือพระสงฆ์ที่มีความรอบรู้ และฉลาดมากบุคลิกภาพภายนอกดูนิ่ง ๆ แต่เมื่อพูดอะไรออกมา กลับหนักแน่น มีพลัง มีความหมายในทุกคำพูดทุกคำพูดมีความหมายเรียกว่าพูดอย่างมีสติเริ่มรู้สึกตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่าผมกำลังได้มาอยู่ เรียนรู้ กับพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และเน้นการปฏิบัติภาวนา(ในชื่อของท่านก็มีคำนี้ คือ พระครูวิรัชภาวนานุสิฐ)โดยส่วนตัวผมชอบทักษะการสื่อสารของท่านมาก ที่สามารถสร้างความคุ้นเคย หรือ Break The Iceได้อย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ เป็นการพบกันครั้งแรกกับคนที่ท่านไม่รู้จักมาก่อนทำให้ทุกคนกล้าพูดคุยกับท่านทั้ง ๆ ที่บุคลิกของท่านมีความน่าเกรงขามมากทึเดียวมีเรื่องหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรหลวงพ่อสุชินเรียกผมว่าด๊อกเตอร์ ผมก็รีบบอกไปว่าผมไม่ได้เป็นด๊อกเตอร์ครับเป็นแค่อาจารย์ เป็นวิทยากรครับท่านก็ถามว่าผมเป็นวิทยากรด้านไหน ก็ตอบท่านไปตามตรงว่าเป็นวิทยากรที่สอนคนที่ต้องการเป็นวิทยากรครับแต่หลังจากนั้นท่านก็ยังคงเรียกผมอยู่ 2 อย่างสลับไปมา บางครั้งท่านก็เรียกผมว่าด็อกเตอร์และบางครั้งท่านก็เรียกว่าอาจารย์ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ในศาลานั้นฝนก็ตกลงมา ได้ยินเสียงฝนตกและเสียงลมพัดชัดเจนช่วงท้ายหลวงพ่อรดน้ำมนต์ และให้พรพวกเราและให้เราได้อุ้ม พระพุทธรูปเป็นรูปปั้นของหลวงปู่โต ขนาดเล็ก แต่น้ำหนัก ถือว่าหนักพอสมควรเวลาการพูดคุยผ่านไปประมาณ ๔๐ นาทีทุกคนกราบลาหลวงพ่อจากนั้นท่านก็เรียกให้คนมาช่วยยกกระเป๋าและพาผมไปที่กุฏิ พร้อมกับบอกให้ผมกลับมาที่ศาลานี้อีกครั้งตอน 6 โมงเย็นเพื่อทำพิธีสมาทานพระกัมมัฏฐานต่อมามีพระรูปหนึ่งกับน้องผู้ชายอีกคนหนึ่งมาช่วยยกกระเป๋า และเป้ของผมพาผมไปที่กุฏิ ตอนนั้นผมเตรียมกราบลาท่านพระครูพิทักษ์สุทธิคุณ ตั้งใจจะเดินไปส่งท่านที่รถตู้แต่ท่านก็พูดขึ้นมาว่า …“เดี๋ยวอาตมาเดินไปส่งโยมอาจารย์ที่กุฎินะ”พอได้ยินอย่างนั้น ผมนี่รู้สึกซาบซึ้งใจมากที่ท่านให้ความเมตตา นอกจากพามาที่ถ้ำตองด้วยตัวเองแล้วยังจะเดินไปส่งผมที่กุฎิด้วยอารมณ์ความรู้สึกประมาณว่าคุณพ่อมาส่งลูกเข้าโรงเรียนประจำระหว่างที่เดินไปที่กุฏิผมก็ถามชื่อหลวงพี่ที่มาช่วยขนกระเป๋าท่านก็ตอบว่า “อาตมาชื่อเต้ยและโยมท่านนี้ ชื่อโต้ง ครับ“พอมาถึงกุฏิ ผมไขกุญแจ เปิดประตูยกกระเป๋าเข้าไปเก็บด้านใน น้องที่ชื่อโต้ง ก็ส่งเสียงถามมาว่า …” ห้องด้านในเรียบร้อยดีไหมครับ“”เรียบร้อยดีครับ“ ผมตอบ” แล้วห้องน้ำล่ะครับเปิดเข้าไปดูหรือยัง เรียบร้อยมั้ยครับ“ น้องโต้งถามต่อผมก็เลยเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดูทุกอย่างก็โอเคดีเลยบอกโต้งไปว่า ”ห้องน้ำเรียบร้อยดีครับ“แล้วผมก็เดินออกมาหน้ากุฎิคุกเข่ากราบที่เท้าของท่านพระครูพิทักษ์ฯท่านบอกว่า ”แล้ววันที่ 22 อาตมาจะส่งคนมารับโยมอาจารย์นะ“ ……………………………….ผมเดินกลับเข้าไปในกุฎิรีบล้างหน้าล้างตาดูนาฬิกาแล้วตอนนั้นอีกประมาณ 20 นาทีจะ 6 โมงเย็น ซึ่งเป็นเวลาที่ต้องกลับไปทำพิธีสมาทานพระกัมมัฏฐาน ที่ศาลา(สมาทานในที่นี่ หมายถึงการกล่าวคำปฏิญาณ มอบตัว หรือถวายตัวเพื่อเข้ารับการฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน)สักครู่หนึ่ง ผมก็ออกจากกุฏิพร้อมไฟฉายเนื่องจากท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มแล้วพอเดินเข้าไปในศาลาก็เห็นแม่ชี 1 ท่าน และพระสงฆ์ 1 รูป(ก็คือพระเต้ยที่ไปส่งผมที่กุฎิเมื่อสักครู่)นั่งรอผมอยู่ที่ศาลา ตรงหน้าพระพุทธรูปผมเข้าไปนั่งอยู่ใกล้ ๆ ทั้งสองท่านพร้อมกล่าวสวัสดีแม่ชี และนมัสการหลวงพี่เต้ย แม่ชีตอบว่า …” สาธุค่ะ ชื่อแม่ชีป๋อมแป๋มนะคะ แม่ชีได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อให้มาสอนวิปัสสนากัมมัฏฐานให้ด๊อกเตอร์ค่ะ“ผมรีบบอกกับครูแม่ชีไปว่า“แม่ชีครับผมไม่ได้เป็นด็อกเตอร์ผมจบแค่ปริญญาโท เป็นอาจารย์เป็นวิทยากร แต่ไม่ได้จบด๊อกเตอร์ ครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ หลวงพ่อท่านเรียก เราก็เรียกตามค่ะ” แม่ชีตอบแล้วแม่ชีก็หันไปทางหลวงพี่เต้ยและพูดต่อไปว่า …“ ระหว่างที่ด็อกเตอร์ฝึก เดินจงกรมและนั่งสมาธิหลวงพ่อท่านได้มอบหมายให้หลวงพี่เต้ยมาเป็นพี่เลี้ยง ระหว่างวันมีอะไรที่ด็อกเตอร์สงสัย ก็สอบถามพระเต้ยได้เลยค่ะแล้วทุกวันตอนเย็นประมาณ 4 โมงครึ่ง แม่ชีจะกลับมาพบด็อกเตอร์เพื่อพูดคุยสอบถาม เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกในแต่ละวัน และบอกแผนการฝึกของวันถัดไปให้ทราบค่ะ”“ขอบคุณมากครับ“ ผมตอบ“สำหรับตอนนี้ด๊อกเตอร์ต้องทำพิธีสมาทานพระกัมมัฏฐานโดยกล่าวตามหนังสือสวดมนต์หน้านึ้ค่ะ”ผมก็เปิดหนังสือสวดมนต์และกล่าวตามลำดับ ดังนี้ …กราบบูชาพระรัตนตรัย อรหังสัมมาตามด้วย นะโมตัสสะ (๓ จบ)จากนั้นก็กล่าวคำมอบตัวดังนี้อิมาหัง ภันเต ภควา อัตตะภาวัง ภะคะวะโต ปะริจจะชามิฯ (แล้วกล่าวคำแปลเป็นภาษาไทยตามนี้)ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระองค์ ขอมอบอัตภาพร่างกายนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อเจริญพระวิปัสสนากัมมัฏฐานฯคำสมาทานก่อนปฏิบัติอะหัง วิปัสสนากัมมัฏฐานัง สมาธิยามิ ทุติยัมปิ อะหัง วิปัสสนากัมมัฏฐานัง สมาธิยามิ ตติยัมปิ อะหัง วิปัสสนากัมมัฏฐานัง สมาธิยามิ สัพพะทุกขะ นิสสะระณะนิพพานะสัจฉิกะระณัตถายะ (แล้วกล่าวคำแปลเป็นภาษาไทยตามนี้)ข้าพเจ้าขอสมาทานวิปัสสนากัมมัฏฐาน แม้ในครั้งที่ ๒ แม้ในครั้งที่ ๓เพื่อกระทำพระนิพพานให้แจ้งอันเป็นที่สิ้นไปแห่งกองทุกข์ทั้งปวงเทอญ สาธุ สาธุข้าพเจ้าขออำนาจ คุณพระพุทธเจ้าคุณพระธรรมพระเจ้า คุณพระสงฆ์เจ้าคุณบิดามารดา คุณครูอุปัชฌาอาจารย์คุณธารบารมี คุณศีลบารมี และบารมีทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้สั่งสมอบรมมา ตั้งแต่อดีตชาติและปัจจุบันชาติขอกุศลเหล่านี้จงมาเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานได้สำเร็จ ให้ได้มรรคผลนิพพานสมความปรารถนาทุกประการเทอญแล้วก็กราบสติปัฏฐาน พูดง่าย ๆ คือกราบพระแบบเบญจางคประดิษฐ์แต่จะเป็นการกราบแบบSlow motion มาก ๆ คือ•ช้า ๆ (Slow)•จดจ่อ (Focus) และ•ต่อเนื่อง (Continuous)เรียกว่ากราบช้า ๆ อย่างมีสติรู้ตัวว่าตอนนี้มืออยู่ตรงส่วนไหนมีลักษณะอย่างไร สัมผัสอะไรอยู่ จากนั้นแม่ชีก็ขอตัวออกไปก่อนเพราะท่านต้องไปสอนผู้ปฏิบัติธรรมอีกกลุ่มหนึ่งพระพี่เลี้ยงหรือหลวงพี่เต้ยก็เริ่มสอนให้ผมเดินจงกรมระยะที่หนึ่งซึ่งมี ๒ ขั้นตอน คือย่างหนอ และ เหยียบหนอค่ำนั้นผมฝึกเดินจงกรมไปพักหนึ่งหลวงพี่เต้ยบอกว่าให้เริ่มระยะแรกให้คุ้นเคยก่อนแล้วพรุ่งนี้ ๘ โมงเช้ามาฝึกต่อกันที่นี่ผมดูนาฬิกาในศาลาตอนนั้นใกล้ ๒ ทุ่มครึ่งแล้วหลวงพี่เต้ยบอกว่าสำหรับวันนี้เอาแค่นี้ก่อน จากนั้นท่านก็บอกให้ผมกราบพระพร้อมกับท่านหลังจากนั้นก็เดินออกมาจากศาลาช่วงนั้นฝนยังตกพรำ ๆ อยู่หลวงพี่เต้ยก็เลยหยิบร่มมาให้ผมคันหนึ่ง ท่านก็มีหนึ่งคันและก็บอกกับผมว่า ..…“พรุ่งนี้โยมอาจารย์จะต้องไปทำวัตรเช้าในโบสถ์พร้อมกับพระสงฆ์ ตอนตีสี่ครึ่งเดี๋ยวอาตมาจะพาไปดูว่าโบสถ์อยู่ตรงไหน”ตอนนั้นมืดแล้ว ดีที่ผมเตรียมไฟฉายมาว่าแล้วหลวงพี่เต้ยก็พาผมเดินย้อนไปตามทางเดินด้านหน้าก่อนถึงศาลาชี้ไปที่เสาไฟต้นหนึ่งที่มีแสงสว่างส่องอยู่และพูดว่า …“ โยมอาจารย์เห็นเสาไฟต้นนั้นไหมที่มีแสงสว่างอยู่ ตรงนั้นทางขวามือจะมีบันไดขึ้นไปที่โบสถ์”ผมก็มองตามที่ท่านบอกพอจำได้แล้ว จึงบอกท่านไปว่า“พรุ่งนี้ตีสี่ครึ่งพบกันที่โบสถ์ครับหลวงพี่เต้ย”จากนั้น ผมกับพระเต้ยก็เดินกลับกุฎิซึ่งอยู่ทางเดียวกันกุฎิผม อยู่ห่างจากศาลาประมาณ 200 เมตร เดินขึ้นลงทางขั้นบันได สลับกับทางราบทางมืดบางช่วง ก็ใช้ไฟฉายส่องนำทางส่วนกุฏิของหลวงพี่ท่านอยู่ห่างออกไปจากกุฏิผมเล็กน้อยคืนนั้นผมรู้สึกเพลียพอสมควรเดินทางบินจากกรุงเทพฯ มาเชียงใหม่แล้วนั่งรถตู้จากเชียงใหม่ประมาณ 2 ชั่วโมงมาที่สำนักปฎิบัติธรรมถ้ำตองที่อ.จอมทอง แล้วตอนค่ำก็มีการปฐมนิเทศ และฝึกซ้อมเล็กน้อนก่อนที่เริ่มการเรียนจริงในวันรุ่งขึ้น ว่าแล้วก็รีบอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเพราะจะต้องตื่นประมาณตีสี่ไปทำวัตรที่โบสถ์ให้ทันตอนตีสี่ครึ่ง นี่คือเรื่องราวการเดินทางมาถึงถ้ำตองวันแรกของผม แรมที่ ๑ เดือน ๔ ปีมะโรง พูทธศักราช ๒๕๖๗ ที่สถานปฏิบัติธรรมถ้ำตองแล้วโพสต์ถัดไปผมจะกลับมาเล่าเรื่องราวของแรมที่ ๒ เดือน ๔ ที่ถ้ำตองให้อ่านกันต่อนะครับ ... See MoreSee Less

Photo

View on Facebook

Latest Posts

Talent กับศักยภาพ “4 นำ”

CUPs of Mentoring

เตรียมตัวอย่างไร เมื่อถึงเวลาให้ Feedback กับน้องในทีม

4De กับการเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่รอด

เทคนิค LEAD สำหรับการนำเสนอ Key Message

Influencer Marketing

Influencer Marketing การตลาดยุคผู้มีอิทธิพล

บทความน่าอ่าน

เรื่องล่าสุด

Talent กับศักยภาพ “4 นำ”

CUPs of Mentoring

เตรียมตัวอย่างไร เมื่อถึงเวลาให้ Feedback กับน้องในทีม

4De กับการเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่รอด

เทคนิค LEAD สำหรับการนำเสนอ Key Message

ติดตามเรา

วิทยากรสตอรี่

©Copyright 2021

Contact Details

เรื่องล่าสุด

Talent กับศักยภาพ “4 นำ”

CUPs of Mentoring

เตรียมตัวอย่างไร เมื่อถึงเวลาให้ Feedback กับน้องในทีม

4De กับการเปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่รอด

เทคนิค LEAD สำหรับการนำเสนอ Key Message

หลักสูตรอบรม

Influencer Marketing

บทความน่าอ่าน

เรื่องล่าสุด

ติดตามเรา

วิทยากรสตอรี่

©Copyright 2021

Contact Details

เรื่องล่าสุด

หลักสูตรอบรม

Tags