13 สิ่งที่วิทยากรมือใหม่ไม่ควรทำ

แบ่งปัน

ในหลักสูตร Train-The-Trainer และ Pro Trainer ที่ผมสอนมาเกือบทุกรุ่น มักจะพบว่าผู้เรียนที่เป็นวิทยากรมือใหม่มีประสบการณ์ในการสอนไม่มากนัก เวลาที่มาฝึกปฏิบัติทำหน้าที่วิทยากรสอนให้ผมดูพวกเขามักทำสิ่งที่ไม่ควรทำ อาจจะเป็นการทำลงไปแบบไม่ตั้งใจ ไม่รู้ว่าการทำแบบนั้นมันส่งผลกระทบเชิงลบต่อการทำงานและภาพลักษณ์ของตัวเขาเอง

บทบาทของผมในฐานะวิทยากรและคอมเม้นเตเตอร์

เนื่องจากผมต้องสวมบทบาทเป็นทั้งวิทยากรผู้สอน และเป็นคอมเม้นเตเตอร์ คอยบอกจุดที่ลูกศิษย์แต่ละคนทำได้ดี  และจุดที่ควรปรับปรุงของแต่ละคน รวมทั้งเสนอแนะว่า อะไรที่ควรหลีกเลี่ยง อะไรที่ไม่ควรทำ  ระหว่างที่ทำหน้าที่วิทยากร บทความนี้ ผมจึงสรุปออกมาเป็น 13 สิ่งที่วิทยากรมือใหม่ไม่ควรทำ เป็นสิ่งที่วิทยากร ที่เพิ่งเข้าสู่วงการ ควรหลีกเลี่ยง คือ …

นี่คือ 13 สิ่งที่วิทยากรมือใหม่ไม่ควรทำ

1) อย่าเผลอชี้นิ้วไปที่ผู้เรียนเพราะเขาอาจเข้าใจผิดคิดว่าเราไม่สุภาพ ไปชี้หน้าเขาทั้ง ๆ ที่วิทยากรผู้สอนไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลย วิธีแก้ไขคือ ให้ใช้การผายมือแทน ผายไปทั้งมือ ผายลงมาต่ำกว่าระดับสายตาของผู้เรียน จะได้ไม่ดูคุกคาม หรือกดดันผู้ฟัง โดยไม่เจตนาครับ

2) อย่าเรียกคนเรียนด้วยคำสรรพนามว่า “คุณ” คำเดียวโดด ๆ หรือ “พวกคุณ” แนะนำให้ใช้คำว่า “เรา”  หรือ “พวกเรา” แทน ถ้าจะใช้คำว่าคุณ แนะนำให้ตามด้วยชื่อ จะเป็นชื่อเล่น หรือชื่อจริงของเขาก็ได้ ยกเว้น ถ้ารู้จักสนิทสนมกันมาระดับหนึ่งแล้ว อาจจะเรียกพี่ เรียกน้องได้ (กรณีหลังนี้ให้ดูตามสถานการณ์อีกทีนะครับ)

3) อย่าทำหน้านิ่ง หน้าดุยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไว้เพราะอารมณ์ความรู้สึกส่งต่อถึงกันได้ วิทยากรควรส่งพลังงานดี ๆ ความรู้สึกดี ๆ ให้กับผู้เรียน ตัวผมเองเป็นคนจริงจังมาก ตอนเริ่มฝึกเป็นวิทยากรใหม่ ๆเวลาสอนหน้าจะนิ่ง ไม่ยิ้มเลย สร้างอารมณ์ขันก็ไม่เป็น แต่เรื่องเหล่านี้ เป็นทักษะถ้าตั้งใจฝึกฝนพัฒนาเดี๋ยวเราก็ทำได้  ทุกวันนี้ผมสามารถยิ้ม และหัวเราะในคลาสได้อย่างเป็นธรรมชาติไม่ต้องตั้งใจ ไม่ต้องวางแผนมาล่วงหน้า ปล่อยใจให้มัน Flow และรับรู้ความรู้สึก แล้วก็แสดงออกไปครับ

4) อย่าอยู่กับที่ตลอดเวลาเพราะมันทำให้คนเรียนรู้สึกเหินห่าง เกิดช่องว่างระหว่างคนเรียนกับคนสอนวิทยากรควรเคลื่อนที่ หรือขยับร่างกายบ้าง เพื่อถ่ายเทพลังงาน ให้ไหลเวียน หรือ Flow ไม่นิ่งจนเกินไปแต่ไม่ได้หมายความว่าวิทยากรจะต้องเดินเคลื่อนที่ไป ๆ มา ๆ อยู่ตลอดเวลา จนผู้เรียนรำคาญ หรือเวียนหัว

5) อย่าใช้คำศัพท์ คำเฉพาะ ตัวย่อ ที่ผู้เรียนไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย ถ้าจะใช้ ต้องใช้การอธิบายประกอบ เล่าเรื่อง หรือยกตัวอย่าง เพิ่มเติมให้ผู้เรียนเข้าได้ง่าย ไม่งง หรือเกิดความสับสน วิทยากรหลายคนเผลอตัวเผลอใช้คำ Technical Term  หรือ ใช้คำภาษาอังกฤษ ติดปากเวลาพูดอยู่บ่อย ๆ จนชิน พอมาทำหน้าที่วิทยากรก็เลยใช้คำเหล่านั้นจนลืมนึกไปว่าคนเรียนไม่ได้มีพื้นฐาน เหมือนวิทยากร คนเรียนเขาอาจจะไม่เคยมีความรู้หรือประสบการณ์ในเรื่องนั้นมาก่อน เหมือนวิทยากรเลยก็ได้

6) อย่า Push content หรืออัดเนื้อหา ข้อมูลให้ผู้เรียนตลอดเวลา หลายคนสอนด้วยการบรรยาย ใช้สไลด์พรีเซนเตชั่นเป็นสื่อการสอน พูดนำเสนอไปเรื่อย ๆ แบบนี้ผู้ฟังก็นั่งฟังเฉย ๆ พอนั่งไปนาน เขาก็อาจจะรู้สึกเบื่อหรือง่วงนอนได้ ข้อแนะนำคือ ให้วิทยากรสลับมาใช้วิธี Pull contents จากผู้เรียนบ้าง ด้วยการตั้งคำถามให้ตอบ มีโจทย์แบบฝึกหัดให้ทำ มีกรณีศึกษาให้แก้ มีบทบาทสมมติให้ลองแสดงดู เพื่อกระตุ้นให้คนเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ตลอดเวลา

7) อย่าพูด/นำเสนออยู่คนเดียว ควรสื่อสารสองทาง สร้างบทสนทนากับผู้เรียน ให้เกิดบรรยากาศแห่งการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ถาม ฟัง และ สะท้อนกลับบ้าง วิทยากรต้องให้ความสำคัญกับผู้เรียนด้วยการรับฟังอย่างตั้งใจ ไม่ยึดพื้นที่การเรียนรู้เป็นของตัวเอง ให้ระลึกไว้เสมอว่าคนเรียนคือพระเอก  เราเป็นผู้กำกับ ตัวแสดงหลักคือเขา ไม่ใช่เรา วิทยากรเราทำหน้าที่กระตุ้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ และสื่อสารมากขึ้น

8) อย่าใช้การบรรยาย (LBL : Lecture Based Learning) ตลอดเวลาขณะที่สอน ควรให้ใช้กิจกรรม (ABL : Activity Based Learning) มาเป็นสื่อการเรียนรู้บ้างก็ได้ เช่น ใช้เกมและกิจกรรมการแข่งขันต่าง ๆ มาทำให้คนมีส่วนร่วม รู้สึก สนุกสนานไปกับการเรียนรู้แบบไม่น่าเบื่อ อย่าเน้นแต่วิชาการ หลักการทฤษฎีจนคนเรียนได้แต่นั่งฟังอย่างเดียวควรให้ผู้เรียนได้ทดลองทำ เพื่อให้เกิดความเข้าใจจากการลงมือทำจริง ๆ ด้วย

9) อย่ามีอีโก้ อย่าหลงตัวเอง คิดว่าเนื้อหาของวิทยากรคือสิ่งที่ดีที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุด ดีแบบไม่มีที่ติ พอมีคนเรียนถาม หรือโต้แย้ง แล้วรับไม่ได้ อารมณ์เสีย ชักสีหน้าให้คิดเสมอว่าทุกอย่างล้วนมีข้อดี ข้อด้อย ด้านดี ด้านไม่ดี ควบคู่กันอยู่เสมอ ไม่มีเนื้อหาใดถูกต้องที่สุด ไม่มีเนื้อหาใดใช้ได้กับทุกสถานการณ์ บางครั้งอาจจะเหมาะกับบางกลุ่ม บางคน บางสถานที่และบางช่วงเวลา ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลง รวมทั้ง Content ด้วยเช่นกัน วิทยากรบางคนยึดติดความเชื่อของตัวเอง มั่นใจว่าของฉันมันใช่ที่สุด ถูกต้องที่สุด จงนึกไว้เสมอว่าความคิดความเชื่อของแต่ละคนแตกต่างกันได้คนเรามีพื้นฐานที่มา และประสบการณ์ที่สั่งสมมาไม่เหมือนกัน คนเรียนไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนเรา หรือเชื่อสิ่งเดียวกับเรา 

10) อย่าเอาแต่ใจตัวเอง นึกถึงใจคนเรียน เห็นอกเห็นใจ คนเรียนบ้าง เขาอาจเข้าห้องฝึกอบรมมาด้วยเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย เขาอาจจะไม่พร้อมที่จะเรียนรู้กับเรา 100% ด้วยเหตุปัจจัยต่าง ๆ ก็ได้วิทยากรต้องพร้อมที่จะเข้าใจ เห็นใจเขา อย่าตัดสินพิพากษาเขาจากสิ่งที่เห็น คนเป็นวิทยากรใจกว้าง และมีเมตตาให้กับผู้เรียน

11) อย่าสอนในสิ่งที่เราไม่รู้จริงเพราะเวลาถูกคนเรียนซักถามแล้วเราจะตอบไม่ได้ ถ้าตอบไม่ได้คนเรียนเขาจะไม่เชื่อถือเรา ไม่อยากเรียนกับเรา นักวิชาการด้านการเรียนรู้ยกย่องวิทยากรว่าเป็น Content expert หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา นั่นหมายความว่าถ้าจะสอนหัวข้อ หรือหลักสูตรอะไรก็ตาม เราจะต้องรู้ลึกรู้จริงรู้รอบในเรื่องนั่น ๆ ผ่านการลงมือทำมาจนช่ำชองและเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง หากไม่เชี่ยวชาญแล้วดันไปสอน เจอคำถามลึก ๆ เข้า ตอบไม่ได้ ก็จะพลอยทำให้วิทยากรเสียชื่อเสียง

12) อย่าเป็นวิทยากรสุกเอาเผากิน ขาดการเตรียมตัว ไม่หาข้อมูล เตรียมเช้า สอนบ่าย อ่อนซ้อม ไม่แม่นในเนื้อหา เลือกเครื่องมือและเทคนิคการสอนมาไม่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ และสไตล์การเรียนรู้ของกลุ่มคนเรียน สอนติด ๆ ขัด ๆ ไม่ราบรื่น รวมทั้งบริหารเวลาไม่ได้ เริ่มก็ช้า เลิกก็ช้า คนเรียนก็จะมองว่าวิทยากรคนนั้นขาดความเป็นมืออาชีพ (Professionalism)

13) อย่ามุ่งถ่ายทอดเนื้อหา (Content) จนลืมสร้างบรรยากาศ กระตุ้น จูงใจ  (Context) ให้คนอยากเรียนเพราะถึงแม้เนื้อหาสาระของเราจะดี แต่ถ้าบรรยากาศในคลาส สภาพแวดล้อม ความสัมพันธ์ไม่เอื้อ ไม่กระตุ้นคนเรียนให้พร้อม ให้เปิดใจ ก็ไร้ประโยชน์ บรรยากาศการเรียนรู้ที่ดีก็เช่น การสร้างความเป็นกันเอง ระหว่างวิทยากรกับผู้เรียน และระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียนด้วยกันเอง การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนกล้าพูดกล้าแสดงออก ไม่กลัวเสียหน้าไม่กลัวเสียฟอร์ม เพราะบรรยากาศเปิด ทุกคนผิดพลาดได้ ไม่มีการลงโทษ หรือทำให้เสียความรู้สึก นอกจากนี้ยังหมายถึงการเชื่อใจและให้เกียรติผู้เรียน ด้วยการรับฟัง ฟังแบบเข้าอกเข้าใจไม่ตัดสิน

สุดท้ายนี้ผมในฐานะวิทยากรรุ่นพี่ ขอเป็นกำลังใจให้วิทยากรหน้าใหม่ทุกท่าน จงอดทน ขยัน มุ่งมั่นพัฒนาทักษะการสอนของตัวเองให้เก่งขึ้นดีขึ้นเรื่อย ๆ และที่สำคัญหากท่านต้องการเป็นวิทยากรมืออาชีพหรือ Professional Trainers จะต้องพยายามหลีกเลี่ยง  13 สิ่งที่วิทยากรกรมือใหม่ไม่ควรทำ ข้างต้นให้ได้นะครับ

เกี่ยวกับผู้เขียน

อ.ไชยยศ ปั้นสกุลไชย

อาจารย์ไชยยศเป็นนักปั้นวิทยากรมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าองค์กรธุรกิจชั้นนำของไทยกว่า 100 แห่ง มีผู้เข้าฝึกอบรมแล้วกว่า 20,000 คน จากหลักสูตร Train-The-Trainer, Facilitation Skill และ Storytelling และเป็นผู้แต่งหนังสือ “วิทยากรนอกกรอบ”

คุณอาจจะชอบบทความเหล่านี้