Food Tasting ประสบการณ์ดีๆ ที่โอ๊คแลนด์

แบ่งปัน

ในปี 2021 ที่ผ่านมา ประเทศนิวซีแลนด์ได้เผชิญกับภาวะโควิด-19 แพร่ระบาดเหมือนประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้น ทั่วประเทศนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างโอ๊คแลนด์จึงตกอยู่ในการ lockdown เป็นเวลาหนึ่งร้อยกว่าวันหรือสามเดือนกว่า ช่วงเวลาระหว่างนั้นธุรกิจและห้างร้านต่าง ๆ ยกเว้นเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ตและฟาร์มาซี ต้องระงับการเปิดให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งรวมถึงร้านอาหารที่ผมทำงานพาร์ทไทม์อยู่ด้วย 

เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นการ lockdown ก็ลดระดับความเข้มงวดลง ร้านรวงต่าง ๆ เริ่มกลับมาให้บริการได้ในระดับหนึ่ง และก่อนที่ผมจะกลับไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งเดิม ทางผู้จัดการร้านอาหารที่ผมทำงานอยู่ ก็ได้ส่งอีเมล์ถึงพนักงาน front of house ของร้านทุกคนให้มาชิมอาหาร (Food Tasting) ก่อนที่ร้านจะเปิดในช่วงต้นเดือนธันวาคม

ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า ร้านอาหารที่ผมทำงานอยู่นี้เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์แนว Smart Dining ริมฝั่งทะเลในเมืองโอ๊คแลนด์ที่เปิดให้บริการลูกค้าตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ถือว่าเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีประมาณ 30 โต๊ะ และมีห้องฟังก์ชั่นเล็กๆ สำหรับ Private Dining อีกหลายห้อง มีพนักงานทั้ง front และ back of house ประมาณ 30 คน

ผมทำงานที่นี่มาได้เกือบหนึ่งปีแล้ว เริ่มแรกที่ผมเข้ามาทำงานพาร์ทไทม์ที่นี่ ผมทำหน้าที่เป็น runner  คือเสิร์ฟอาหารและช่วยงานเช็ดแก้ว เช็ดจานเมื่อว่างจากงานเสิร์ฟ แต่พอทำได้ระยะหนึ่ง มีความคล่องตัวสูง ทางผู้จัดการร้านเลยให้ผมมาทำหน้าที่ที่เรียกว่า pass คืออยู่ระหว่างเชฟกับลูกค้า เป็นผู้เช็ครายการอาหารจาก waiter ที่ take order (waiter เท่านั้นที่จะทำหน้าที่ take order จากลูกค้า) แล้วคีย์รายการเข้าระบบมาให้ back of house หรือเชฟ โดยผมทำหน้าที่รันคิวให้กับ runner เพื่อนำไปเสิร์ฟให้กับลูกค้าอีกที และหากวันไหนลูกค้าไม่ยุ่ง ถ้าผมว่างจากหน้าที่ pass ผมก็ทำหน้าที่ runner ควบคู่ไปด้วย

สำหรับเมนูอาหารของร้านนั้น มีการปรับเปลี่ยนเมนูตลอดทั้งปีอยู่แล้ว เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนเมนูเพียงไม่กี่เมนูสลับไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องจัดให้มี Food Tasting เพียงแค่บอกรายละเอียดกับพนักงานเท่านั้น และในแต่ละปีก็จะมีการปรับเปลี่ยนเมนูใหม่แบบยกเซ็ตสักครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น

และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับแจ้งให้ไป  Food Tasting เหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ ซึ่งครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนเมนูของร้านมากกว่าครึ่งหนึ่ง  ดังนั้น การให้พนักงานที่ร้านมาทำการชิมอาหารก่อนที่จะเปิดให้บริการ จะทำให้พนักงานทุกคนรู้รายละเอียดของเมนูและส่วนผสมต่าง ๆ ของแต่ละเมนู รวมทั้งสามารถแนะนำไวน์ หรือเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับอาหารจานนั้น ๆ ให้กับลูกค้าได้ด้วย ซึ่งการไปชิมอาหารที่ร้านก่อนเปิดให้บริการนั้น พนักงานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ หรือพาร์ทไทม์ ทางร้านอาหารจะมีการจ่ายเงินให้เหมือนเวลาที่ทำงานตามปกติ

สิ่งแรกที่ผมเจอในวันที่ไปชิมอาหารที่ร้านคือ ได้เจอเพื่อนร่วมงานทั้งเก่าและใหม่หลายคนมาที่ร้าน รวมทั้งเชฟด้วย ซึ่งถือเป็นการรวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าครั้งแรกในรอบ 3 เดือน จากนั้นผู้จัดการก็แจกลิสต์รายการอาหารซึ่งมีการบอกส่วนผสมและ dietary ของแต่ละเมนู เช่น เมนูนี้สามารถทำแบบ GF (Gluten Free) หรือ DF (Dairy Free) ได้หรือไม่ เวลาที่อาหารเสิร์ฟแต่ละจานให้ทุกคนได้ชิมนั้น ตัวเชฟเองจะเป็นคนออกมาเสิร์ฟอาหารและอธิบายรายละเอียดของแต่ละจาน และให้โอกาสพนักงานแต่ละคนถามข้อสงสัยในแต่ละจานด้วย หลังจากนั้น bartender ก็จะแนะนำไวน์ที่เหมาะกับเมนูนั้นๆ ให้ทุกคนได้ชิมและฟังรายละเอียด

ในวันนั้น เชฟเสิร์ฟอาหารแต่ละจานโดยเริ่มจาก Desserts ก่อน จากนั้นจึงเป็น Entree / Starters (เรียกน้ำย่อย) และสุดท้ายจึงเป็น Mains (อาหารจานหลัก) ตัวอย่างอาหารที่ได้ชิมวันนั้น ส่วนตัวของผมแล้ว เมนูของหวานผมชอบ Panettone Bread & Butter Pudding ที่เสิร์ฟพร้อมกับ Vanilla Ice Cream รสชาติหวานนุ่มละมุนเคล้ากลิ่นวานิลลา ส่วน Entrée นั้น ผมไม่ได้ชอบจานไหนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ Beef Tartare เนื่องจากเป็น Raw Beef ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบกินเนื้อดิบ ในส่วนของ Main Dish ที่ผมชอบมากที่สุดคือ Snapper ซึ่งเป็นปลา grilled และเสิร์ฟพร้อมกับ Squid และ Black Cabbage ถือเป็นเมนูที่ผมชื่นชอบและอร่อยมากที่สุดเลยครับ 

จากการที่ผมได้ไปชิมอาหารก่อนเปิดร้านครั้งนี้ ผมรู้สึกดีมาก เพราะรู้สึกว่า ร้านอาหารให้ความสำคัญกับการให้บริการที่มีมาตรฐานที่ดีกับลูกค้า อีกทั้งยังทำให้พนักงานมีความรู้เกี่ยวกับอาหารจานนั้น ๆ มากขึ้น และสามารถแนะนำรายละเอียดกับลูกค้าได้ดีกว่าเดิม รวมทั้งการที่ให้พนักงานมาเจอกันก่อนเริ่มทำงาน ทำให้แต่ละคนได้รู้จักกันและทำความคุ้นเคยกันก่อนร่วมงาน เพราะว่าหลังจาก lockdown มีพนักงานใหม่เข้ามาทำงานหลายคน ดังนั้นการที่พนักงานมาเจอกันก่อน จะทำให้มีความราบรื่นในการทำงานมากขึ้น

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าผมจะเป็นเพียงพนักงานพาร์ทไทม์ตัวเล็กๆ แต่ทางร้านก็ให้ความสำคัญเท่าเทียมกับทุกคน เพื่อให้ทุกคนได้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ก็ถือว่าเป็นการชิมอาหารเพื่อการทำงานครั้งแรกของผมที่ผมรู้สึกประทับใจมากครับ และน่าจะเป็นการเริ่มต้นทำงานครั้งใหม่ที่ราบรื่นและมีความเป็นมืออาชีพในหน้าที่ของผมที่รับผิดชอบมากขึ้นกว่าเดิมครับ…ขอขอบคุณประสบการณ์ดีๆ ครั้งหนึ่งจากที่นี่ครับ

เกี่ยวกับผู้เขียน

ชยุต ปั้นสกุลไชย

นักศึกษาปริญญาตรีที่ The University of Auckland ประเทศนิวซีแลนด์ หลงรักงานเขียนที่บอกเล่าเรื่องราวของการเรียนรู้โลกกว้างและการเดินทาง เพื่อพบปะกับผู้คนในหลากหลายวัฒนธรรมและความแตกต่างทางสังคม

คุณอาจจะชอบบทความเหล่านี้